Thai | English
  Health & Care
ฝึกประสาทสัมผัสทั้งห้าของลูกรักด้วยกิจกรรมแสนสนุก/ดร.แพง ชินพงศ์

ฝึกประสาทสัมผัสทั้งห้าของลูกรักด้วยกิจกรรมแสนสนุก/ดร.แพง ชินพงศ์

    โดย ธรรมชาติแล้ว เด็กเล็กๆจะเรียนรู้ได้ดีผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ซึ่งได้แก่ การมองเห็น การฟัง การสัมผัส การดมกลิ่นและการชิมรส โดยกิจกรรมที่เหมาะสมในการช่วยพัฒนาทักษะการเรียนรู้โดยผ่านประสาทสัมผัส ทั้งห้า มีตัวอย่างดังนี้
 o 3.jpg - การอ่านหนังสือ ถือเป็นการเรียนรู้โดยผ่านประสาทสัมผัสทางตาโดยตรง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรให้ความใส่ใจในการเลือกสรรหนังสือสำหรับลูก เช่น หนังสือนิทานที่ให้ลูกอ่าน ควรมีสีสันหลากหลายและสดใส เพื่อลูกจะได้ฝึกแยกแยะเรื่องสี นอกจากนี้ตัวหนังสือต้องมีขนาดใหญ่พอสมควรที่จะเห็นได้ชัดและอ่านได้อย่าง สบายตา เพื่อที่จะไม่ต้องใช้สายตาหนักมากเกินไป
       
       - งานศิลปะ กิจกรรมวาดรูป ระบายสี เป็นกิจกรรมง่ายๆที่ฝึกให้ลูกได้ใช้ประสาทสัมผัสทางสายตาอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่ลูกมักจะวาดหรือระบายสีรูปมาจากสิ่งที่เขาได้เคยพบเห็น เช่น วาดรูปนกก็วาดให้มีลักษณะเป็นปีกสองข้าง วาดรูปกระต่ายก็จะวาดให้มีหูยาวๆ ระบายสีท้องฟ้าก็จะระบายสีฟ้า ก้อนหินก็ระบายเป็นสีดำ ดังนั้นงานศิลปะนอกจากจะเป็นการฝึกด้านสายตาแล้ว ยังฝึกเรื่องของการสังเกตและความจำของลูกด้วยอีกทางหนึ่ง
       
       - ทัศนศึกษา การพาลูกไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ เช่นพาไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ พาไปทะเล พาไปสวนสัตว์ ทำให้ลูกได้พบเห็นสิ่งใหม่ๆ จึงเป็นการฝึกการใช้สายตาในการมองรายละเอียดของสถานที่ต่างๆ รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่พบเห็นได้เป็นอย่างดี
       
       - เกม เช่น การต่อจิ๊กซอว์ เป็นกิจกรรมที่ลูกจะได้ใช้สายตาในการสังเกตชิ้นส่วนต่างๆของจิ๊กซอว์ เพื่อนำไปต่อให้ถูกต้อง ซึ่งเกมนี้นอกจากจะฝึกเรื่องสายตาแล้ว ยังฝึกเรื่องของสมาธิและการสังเกตอีกด้วย
***กิจกรรมฝึกการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทางการสัมผัส
       

       - งานศิลปะ เช่น การปั้น การตัด การแปะ การประดิษฐ์สิ่งของ เป็นกิจกรรมที่ลูกต้องใช้การสัมผัสโดยตรงเพราะเป็นกิจกรรมที่จำเป็นต้องใช้ กล้ามเนื้อมือเป็นหลักในการใช้มือหยิบ จับ ตัด ปั้นวัตถุและอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงใช้สัมผัสเพื่อแยกแยะความแตกต่างของสิ่งต่างๆด้วย เช่น การผสมแป้งกับน้ำเพื่อใช้ในการปั้น เมื่อเด็กสัมผัสแป้งจะรู้ว่ามีลักษณะเป็นผง และเมื่อสัมผัสน้ำจะรู้ว่ามันเปียก แต่เมื่อนำทั้งสองอย่างมาผสมกันแล้วและเด็กๆใช้มือนวดหรือคลึงมันก็จะรวมตัว กันเป็นก้อนสามารถเอาไปปั้นเป็นรูปร่างต่างๆได้
       
       - กิจกรรมการเล่นบล็อก ทำให้ลูกได้ฝึกใช้มือในการหยิบ จับ วาง เพื่อต่อให้เป็นรูปทรงแบบต่างๆ ดังนั้นจึงมีประโยชน์ที่จะฝึกใช้ทั้งมือและสายตาในการมองด้วย
       
       ***กิจกรรมฝึกการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทางการฟัง
       

       - ดนตรี ดนตรีเป็นเรื่องของเสียง จึงต้องเรียนรู้ผ่านทางการฟัง ดังนั้น การที่คุณพ่อคุณแม่ให้ลูกได้ทำกิจกรรมดนตรี ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง ร้องเพลง เต้นรำ เล่นดนตรี จะช่วยพัฒนาความสามารถในด้านการฟังของเด็กๆได้ดีมาก และถ้ายิ่งเปิดโอกาสให้ลูกได้มีประสบการณ์ทางด้านดนตรีมากๆ จะช่วยพัฒนาทักษะในการฟังและการใช้หูให้เกิดประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดีด้วย เช่น ลูกจะสามารถแยกแยะเสียงในระดับต่างๆได้อย่างแม่นยำทำให้เล่นดนตรีได้เก่งและ ไพเราะ สามารถร้องเพลงได้ไม่เพี้ยน สามารถแต่งเพลงได้
       
       - การสนทนาพูดคุย การที่คุณพ่อคุณแม่พูดกับลูกบ่อยๆจะช่วยพัฒนาการฟังของลูกได้อย่างดีที่สุด เพราะเมื่อลูกได้ฟังบ่อยๆก็จะสามารถจดจำรายละเอียดของเสียงหรือคำต่างๆที่ ได้ยินได้ เราจะพบได้ว่าเด็กๆสมัยนี้ช่างพูดช่างคุย พูดศัพท์ยากๆได้จนผู้ใหญ่ยังงง นั่นเพราะเขาได้เรียนรู้ผ่านทางการฟังมานั่นเอง ดังนั้น หากต้องการจะฝึกลูกให้เก่งด้านภาษา จึงต้องฝึกให้ลูกได้ฟังมากๆ เช่น ถ้าต้องการให้ลูกพูดภาษาต่างประเทศได้ ก็ให้ลูกมีโอกาสได้พูดคุยกับคนที่เป็นเจ้าของภาษา หรือหาซีดีเกี่ยวกับการสนทนาในภาษาต่างๆให้ลูกฟัง เมื่อเขาฟังบ่อยๆเขาจะค่อยๆจดจำและซึมซับรายละเอียดของเสียง สำเนียง จนสามารถนำมาใช้ได้ในที่สุด
       
       ***กิจกรรมฝึกการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทางการดมกลิ่น
       
       - การทำอาหาร มีความจำเป็นต้องใช้ประสาทสัมผัสด้านการดมกลิ่นอย่างมาก เพราะสามารถใช้แยกแยะประเภทของอาหาร ลักษณะและสภาพของอาหารได้ เช่น ดมแล้วมีกลิ่นหอมหวาน ก็รู้ได้ว่าเป็นขนม แต่ถ้าดมแล้วมีกลิ่นฉุนแสบร้อนจมูก ก็รู้ได้ว่าเป็นอาหารคาว หรือถ้าดมแล้วมีกลิ่นเปรี้ยว อาจต้องสงสัยว่าอาหารนี้อาจหมดอายุหรือเสื่อมสภาพแล้ว ซึ่งการทำอาหารนี้นอกจากจะฝึกเรื่องของการใช้จมูกในการดมกลิ่นแล้ว ยังช่วยฝึกเรื่องการสังเกตและการวิเคราะห์อีกด้วย
       
       - วิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม เป็นกิจกรรมที่สามารถฝึกการใช้ประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นเพื่อแยกแยะสิ่ง ต่างๆที่อยู่รอบตัวเราได้ เช่น การให้ลูกดมกลิ่นดอกไม้ที่ต่างชนิดกัน จะทำให้ลูกแยกแยะความแตกต่างๆของดอกไม้แต่ละชนิดได้
 
  ***กิจกรรมฝึกการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทางการชิมรส
       

       - การทำอาหาร ต้องมีการชิมรส เพราะจะทำให้รับรู้รสชาติของอาหารนั้นได้ว่าเป็นรสเปรี้ยว หวาน เผ็ด เค็ม ขมหรือเฝื่อน เช่น การทำต้มยำกุ้ง ก็ต้องชิมว่าให้มีรสชาติเปรี้ยว เผ็ด เค็มหรือแกงเขียวหวานต้องชิมให้มีรสหวานอย่างพอดี เมื่อชิมแล้วก็สามารถรู้ได้ว่ารสชาติดีแล้วหรือยัง หากยังไม่ดี ก็ต้องปรุงเพิ่มอีกเพื่อให้อาหารมีรสชาติอร่อยถูกใจ การทำอาหารนอกจากจะฝึกประสาทสัมผัสด้านการชิมรสแล้ว ยังสามารถฝึกในเรื่องความจำ การแยกแยะ วิเคราะห์และประมวลผลด้วย
       
       จริงๆ แล้วกิจกรรมต่างๆที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นกิจกรรมง่ายๆที่เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ได้ฝึกให้ลูกได้ทำอยู่ในทุกวันอยู่ แล้ว แต่อยากให้คุณพ่อคุณแม่ได้ส่งเสริมกิจกรรมเหล่านี้ให้มากขึ้นเพราะสามารถใช้ ฝึกฝนการเรียนรู้ด้านต่างๆของลูกๆได้เป็นอย่างดี เช่น หากอยากให้ลูกเก่งด้านภาษาหรือเก่งดนตรี ก็ฝึกฝนในการใช้ประสาทสัมผัสทางการฟังให้มาก หรือหากอยากให้ลูกเรียนเก่งหรือมีความจำที่ดีก็ควรฝึกฝนในการใช้ประสาท สัมผัสทางการมองเห็น รับรองว่าหากให้ลูกได้ทำกิจกรรมเหล่านี้บ่อยๆก็สามารถที่จะทำให้เขาเป็นเด็ก ที่เก่งและฉลาดในด้านใดด้านหนึ่งหรือในหลายๆด้านได้อย่างแน่นอน


บทความจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์ / life & family ฉบับวันที่ 10  มิถุนายน 2553
Health & Care
- BPA คืออะไร
- เทคนิคการนวด
- ลูกจะเป็นอย่างไร ส่วนสำคัญขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของพี่ๆ
- 'กระดูกสันหลังคด' โรคที่อาจมากับ 'เด็กแรกเกิด'
- ขวดนมแบบไหน? ถึงจะโดนใจหนู
- เรื่องน่ารู้ของ
- ใช้
- ส่งลูกเข้าเรียน "วิถีพุทธ" ใครว่าเด็กจะล้าหลังคร่ำครึ!
- เมื่อลูกเป็น "โรค ภูมิแพ้"
- หนูอายจัง...ทำยังไงดี
View all

  Baby Product   Blog   About us   Address
  •   Athena Metis Co., Ltd.
  •   A M C (Thailand) Co., Ltd.
  •   50/41 Moo 13, Putthamonthon Sai 5
  •   Raikhing, Sampran,
  •   Nakornprathom 73210 Thailand
  •   Tel: +66 (0)2 019 9887
  •   Fax: +66 (0)2 019 9878
  •   E-mail: info@happybabito.com
HappyBabito Copyright 2010 Athena Metis Co., Ltd. All Rights Reserved. Babito is a trademark owned by Athena Metis Co., Ltd.
Engine by MAKEWEBEASY