|
|
|
Health & Care
|
|
พาลูกเดิน "ห้าง" ให้ฉลาด พ่อแม่ออกแบบได้
|
|
|
พาลูกเดิน "ห้าง" ให้ฉลาด พ่อแม่ออกแบบได้
ปฏิเสธ ไม่ได้เลยว่า ศูนย์การค้า หรือห้างสรรพสินค้า ไม่เพียงแต่จะเป็นสถานที่สำหรับวัยรุ่น และคนทำงานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นวิถี หรือไลฟ์สไตล์ของคนที่มีครอบครัวในสังคมเมือง ที่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาหลังเลิกงาน หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ พาสมาชิกออกไปเดินเที่ยวเล่น กินอาหาร ตลอดจนจับจ่ายซื้อของที่จำเป็นเข้าบ้าน แต่หากมองในอีกมุมหนึ่ง พื้นที่แห่งนี้ ถือเป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนที่พ่อแม่สามารถสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้ กับลูกได้ไม่น้อย
 ในประเด็นนี้ วันชัย บุญประชา ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัวในฐานะคุณพ่อลูกหนึ่ง ยอมรับกับทีมงาน Life and Family ว่า ห้างสรรสินค้า หรือศูนย์การค้า ได้กลายเป็นวิถีเมืองของสังคมไทยไปแล้ว โดยเฉพาะห้างกับครอบครัว เป็นสิ่งแยกออกจากกันได้ยาก เช่นกันกับครอบครัวของเขา ที่จะใช้ห้างเป็นแหล่งซื้อของ และกินอาหารร่วมกันกับลูก และภรรยาในบางอาทิตย์
แต่ แทนที่จะเดินเที่ยว หรือเดินซื้อของเพียงอย่างเดียว คุณวันชัย เผยแนวทางว่า พ่อแม่สามารถใช้ห้างสอนลูกได้หลายเรื่อง เช่น การใช้เงิน คิดเงิน ทอนเงิน หรือการเลือกของใช้ที่จำเป็น และมีประโยชน์ โดยพ่อแม่ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ให้ลูกได้ไม่ยาก ยกตัวอย่างเช่น พ่อแม่ลูกอาจมีการปรึกษาพูดคุย หรือวางแผนกันก่อนล่วงหน้าว่า การมาห้างในครั้งนี้จะจับจ่ายซื้อของอะไรเข้าบ้านบ้าง เป็นการสอนให้ลูกรู้จักวางแผนไปในตัว จากนั้น พ่อแม่อาจหากิจกรรมให้ลูกๆ ได้มีส่วนร่วม อาทิ ให้เงินลูก 100 บาท ไปช่วยเลือกซื้อของที่จำเป็นภายใต้วงเงินที่จำกัด
หลัง จากนั้น เมื่อเลือกซื้อของครบแล้ว ควรมีการพูดคุย และชี้แจงให้ลูกเข้าใจตามหลักของเหตุ และผลว่า สิ่งที่เลือกซื้อมานั้น มีประโยชน์ หรือจำเป็นแค่ไหนอย่างไร ซึ่งกิจกรรมนี้ เด็กจะได้เรียนรู้ถึงการเลือกซื้อของที่จำเป็น ไม่ฟุ่มเฟือย รู้จักการคำนวณเงิน เสริมทักษะให้ลูกมีความรับผิดชอบในการใช้เงินอีกด้วย
นอก จากนี้ พ่อแม่อาจสอน หรือชี้ให้ลูกเห็นถึงการเปรียบเทียบราคา และคุณภาพสินค้า เช่น ราคาเท่านี้คุ้มหรือไม่กับการใช้งาน เป็นการสอนให้ลูกรู้จักเลือกซื้อของอย่างประหยัด และคุ้มค่า หรือสอนให้ลูกเป็นคนช่างสังเกต เช่น ดูวันเดือนปีที่ผลิต และวันหมดอายุ เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพกลับบ้าน
สำหรับ โซนของสดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ หรืออาหารทะเล ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ของลูกได้มาก ซึ่งแทนที่พ่อแม่จะเป็นคนเลือกซื้อของ และปล่อยให้ลูกเดินดูอย่างเดียว ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว แนะว่า พ่อแม่อาจใช้โซนดังกล่าวนี้ สอนวิธีการเลือกซื้อ และวิธีการสังเกตที่ถูกต้อง เป็นการบ่มนิสัยฉลาดซื้อให้กับลูกรักได้เป็นอย่างดี
ดัง นั้น เมื่อห้างกับครอบครัว เป็นสิ่งที่แยกจากกันได้ยาก พ่อแม่ควรใช้ห้างให้เกิดประโยชน์เพื่อสร้างการเรียนรู้แก่ลูก แต่ทั้งนี้ พ่อแม่ต้องเข้าใจด้วยว่า ห้างไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต แต่ลูกควรได้ท่องเที่ยวในแหล่งเรียนรู้อื่นๆ ด้วย
"พ่อ แม่ไม่ควรใช้ห้างเป็นวิถีสำหรับครอบครัวมากจนเกินไป เพราะห้างไม่ใช่ทั้งหมดของความจำเป็นในชีวิต ซึ่งเด็กควรเรียนรู้จากสถานที่อื่นๆ ด้วย เนื่องจากห้างเป็นตัวแทนของความฟุ่มเฟือย มีแต่วัตถุ ดังนั้นพ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของลูก ไม่ตามเทรนด์ หรือติดกับดักของวิธีการส่งเสริมการขาย เช่น โปรโมชันต่างๆ เนื่องจากเด็กจะเห็นตัวอย่าง และติดกับไปพร้อมๆ กับพ่อแม่ด้วย" ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัวฝาก
/////////////////
ข้อมูลสำหรับพ่อแม่
การ เลือกซื้อของ โดยเฉพาะของสด พ่อแม่ควรมีความรู้พื้นฐานในการสอนลูก เริ่มจากการเลือกซื้อปลา พ่อแม่อาจจะถามลูกก่อนว่า ที่ถืออยู่นี่คือปลาอะไร เพื่อให้เด็กได้มีคลังคำที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งวิธีการสอนขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละครอบครัว จากนั้นพูดคุย และอธิบายให้ลูกฟังว่า วิธีการเลือกซื้อปลา ลูกต้องดูตา ตาต้องใสแจ๋ว ไม่ขุ่นไม่ช้ำ และตาไม่โบ๋ ส่วนเกล็ดและหนังปลาต้องสีสดใสเป็นเงาไม่ขุ่นมัว เหงือกต้องมีสีแดงสด ไม่แห้งหรือดไคล้ำ จากนั้นให้ลูกลองกดดูว่า เนื้อปลาบุ๋มตามรอยนิ้วมือหรือไม่ ถ้าบุ๋ม และไม่เด้งกลับมา แสดงว่าเนื้อปลาไม่สด
เช่นเดียวกับการเลือกซื้อกุ้ง พ่อแม่ควรอธิบายให้ลูกเข้าใจว่า การเลือกกุ้ง ต้องเลือกตัวที่หัวติดแน่นกับลำตัว เปลือกกุ้งใส มองเห็นสีของมันกุ้งได้ชัดเจน เปลือกไม่แดง เนื้อแน่น เมื่อใช้นิ้วกดจะไม่นุ่ม และเละ
สำหรับการเลือกซื้อปู ควรเลือกซื้อตัวที่มีน้ำหนักมาก เพราะปกติปูจะมีน้ำอยู่ในตัวมาก เมื่อถูกจับขึ้นมาน้ำจะระเหยออกไปตลอดเวลา ดังนั้นยิ่งวางขายนานเท่าไหร่ น้ำหนักก็ยิ่งเบาลงจึงให้เลือกปูที่หนักๆ ไว้ก่อน จากนั้นลองให้ลูกช่วยกดตรงส่วนนอกของปู ถ้าเนื้อแน่นดี กดแล้วไม่บุ๋ม แสดงว่าปูยังสดอยู่ ถ้าอกบุ๋ม ให้คิดไว้ก่อนว่าเป็นปูเก่าที่วางขายนานจนน้ำระเหยออกไปมากแล้ว
อย่าง ไรก็ดี ถ้าต้องการเนื้อให้เลือกปูตัวผู้ ถ้าต้องการไข่ให้เลือกปูตัวเมีย โดยมีลักษณะเฉพาะดังนี้ ปูตัวผู้ จะมีก้ามใหญ่ ฝาปิดหน้าอกเรียวเล็ก มีรูปคล้ายใบพาย ปูตัวเมีย ฝาปิดหน้าอกจะใหญ่ มีรูปคล้ายกลีบดอกไม้ ถ้ามีไข่อยู่ใช้นิ้วดีดกระดองจะมีเสียงแน่นทึบสำหรับปูม้า ให้เลือกตัวที่มีเทาอ่อน มีจุดบางๆ
ส่วนการเลือกซื้อ เนื้อหมู และเนื้อวัว ควรเลือกเนื้อหมูที่มีสีชมพูอ่อน นุ่ม เป็นมัน ไม่มีกลิ่นเหม็น และควรเลือกเนื้อวัวที่มีสีแดงสด ไม่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ไม่มีเมือก และต้องไม่มีเม็ดสีขาวใสคล้ายเม็ดสาคู โดยอธิบายให้ลูกเข้าใจถึงเม็ดดังกล่าวว่า อาจเป็นตัวอ่อนของพยาธิตัวตืด
บทความจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์ / life & family ฉบับวันที่ 2 กันยายน 2553 |
|
|
|
Baby Product
|
Blog
|
About us
|
Address
-
 Athena Metis Co., Ltd.
-
A M C (Thailand) Co., Ltd.
-
50/41 Moo 13, Putthamonthon Sai 5
-
Raikhing, Sampran,
-
Nakornprathom 73210 Thailand
-
Tel: +66 (0)2 019 9887
-
Fax: +66 (0)2 019 9878
-
E-mail: info@happybabito.com
|
|
|
|
|
HappyBabito Copyright 2010 Athena Metis Co., Ltd. All Rights Reserved. Babito is a trademark owned by Athena Metis Co., Ltd. |
|
|
|
