Thai | English
  Health & Care
"เมนูพิเศษ" สำหรับหนูน้อยวัย 6-8 เดือน

"เมนูพิเศษ" สำหรับหนูน้อยวัย 6-8 เดือน

      เรื่อง "อาหารการกิน" เป็นสิ่งที่คุณแม่ที่มีลูกวัยแรกเกิดจนถึง 1 ปี คงจะกังวลและใส่ใจกันอยู่ไม่น้อย ว่าจะให้ลูกรับประทานอาหารประเภทไหนถึงจะเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของลูก นอกจากนมแม่ที่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรก คุณประโยชน์ที่ได้จากน้ำนมของแม่มีคุณประโยชน์มากมาย ทั้งการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูก และมีสารอาหารครบถ้วน โดยเฉพาะโปรตีนที่ย่อยง่าย ทำให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที อีกทั้งยังได้เชื่อมสายสัมพันธ์จากอกแม่สู่ลูก ส่งผลให้เด็กมีสุขภาพจิตที่ดี
  pic 083.jpgแต่ อย่างไรก็ตาม เด็กทารกยังต้องการสารอาหารประเภทอื่นๆ ด้วย เพื่อการเจริญเติบโตของร่างกาย และพัฒนาการทางด้านสมอง ซึ่งจะมีผลต่อระดับสติปัญญาในอนาคต ซึ่งวันนี้ทีมงาน Life & Family มีเมนูพิเศษและมีประโยชน์กับลูกน้อย จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มาแนะนำให้คุณแม่ได้เตรียมอาหารมื้ออร่อยให้ลูกกันคะ
       
       สำหรับ เด็กทารกที่อยู่ในช่วงอายุ 6-8 เดือน ระยะนี้ทารกจะแสดงความสนใจกับสิ่งที่อยู่รอบตัว โดยพยายามสัมผัสและทำกิจกรรมกับวัตถุ เช่น เคาะ เขย่า หรือเอาเข้าปาก การไขว่คว้าสิ่งของเป็นไปในลักษณะที่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ก่อน คือ จะคว้าเมื่อเห็นหรือพบสิ่งที่สะดุดตาโดยบังเอิญ ระยะนี้ทารกยังไม่สามารถเชื่อมระหว่างอดีต ปัจจุบันและอนาคตได้ดีเท่าใดนัก ซึ่งเห็นได้จากการที่ทารกยังไม่สามารถติดตามมองหาวัตถุที่หายไป แต่จะเริ่มมองตามสิ่งของที่ตกหรือหล่นจากมือไปได้ ทั้งนี้พัฒนาการด้านสติปัญญาจะส่งผลเกี่ยวข้องกับสังคม สามารถจำหน้าบุคคลใกล้ชิด และแสดงอาการแปลกหน้าเมื่อเจอกับคนที่ไม่คุ้นเคย
       
       ดัง นั้น การเลือกอาหารที่จำเป็นสำหรับทารกวัยนี้ นอกจากนมแม่แล้วทารกควรได้รับโภชนาการด้านอื่นๆ ผ่านอาหารหลัก 1-2 มื้อในแต่ละวัน ซึ่งสามารถทำได้โดยวิธีการดังต่อไปนี้
       
       ขั้นตอนแรก คือการเตรียมคาร์โบไฮเดรต โดยการนำข้าวสวย 4 ช้อนกินข้าว (1 ช้อนโต๊ะหรือ 3 ช้อนชา) ต้มกับแกงจืดหรือน้ำซุปประมาณครึ่งถ้วยตวง หรือใช้ข้าวตุ๋นข้นปานกลาง 4 ช้อนกินข้าว ผสมกับน้ำแกงจืดหรือซุป 8 ช้อนกินข้าว นอกจากนี้ยังสามารถใช้ปลายข้าว 1 ช้อนกินข้าว ต้มกับน้ำแกงจืดหรือน้ำซุปประมาณ 10 เท่า ซึ่งจะเหลือปริมาณ 4 ใน 5 ส่วนเมื่อเสร็จแล้ว
       
       ขั้นตอนต่อมา คือการเพิ่มคุณค่าทางอาหาร โดยการใส่ผักใบเขียว เหลือง หรือส้มที่อ่อนนุ่ม เคี้ยวง่าย กลิ่นไม่ฉุน 1-2 ช้อนกินข้าว ผสมกับอาหารที่มีโปรตีนเข้มข้น แต่อ่อนนุ่มบดง่าย เช่น ไข่แดง ตับไก่ เต้าหู้อ่อน และปลา หมุนเวียนสลับกันไป นอกจากนี้คุณแม่ควรเหยาะน้ำมันพืช ประมาณครึ่งช้อนชาในอาหารที่ปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อช่วยในการดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมันและเพิ่มความเข้มข้นของพลังงาน ที่จะได้รับ
       
       วันนี้ทีมงานฯ จึงขอแนะนำ สูตรอาหารน่าหม่ำที่คัดสรรมาเพื่อเด็กทารกวัย 6-8 เดือน ให้บรรดาคุณแม่ได้เลือกไปลองทำกันที่บ้านกับ 3 เมนูนี้คะ
 
   ***ข้าวบดไข่แดง-ตำลึง
       
       มีส่วนประกอบ (ต่อ 1 มื้อ) ที่สำคัญ คือ
       - ข้าวสวย 4 ช้อนกินข้าว
       - น้ำแกงจืด 10 ช้อนกินข้าว
       - ไข่แดงต้มสุก (บดละเอียด) ? ฟอง
       - ตำลึงต้มสุก (บดละเอียด) 1 ? ช้อนกินข้าว
       - น้ำมันพืช ? ช้อนชา
       
       อาหาร จานนี้ให้พลังงานทั้งหมด 106 กิโลแคลอรี และจะได้โปรตีน 3.1 กรัม โดยความเข้มข้นของพลังงานอยู่ที่ 0.8 กิโลแคลอรี/กรัม และสัดส่วนของพลังงานที่ได้รับจาก คาร์โบไฮเดรต : ไขมัน : โปรตีน เท่ากับ 48 : 41 : 11
 
***ข้าวบด ตับไก่-เต้าหู้
       
       มีส่วนประกอบ (ต่อ 1 มื้อ) ที่สำคัญ คือ
       - ข้าวสวย 4 ช้อนกินข้าว
       - น้ำแกงจืด 10 ช้อนกินข้าว
       - ตับไก่ต้มสุก (บดละเอียด) ? ช้อนกินข้าว
       - เต้าหู้หลอดไข่ไก่ต้มสุก 2 ช้อนกินข้าว
       - ผักหวาน ต้มสุก (บดหรือหั่นละเอียด) 1 ? ช้อนกินข้าว
       - น้ำมันพืช ? ช้อนชา
       
       อาหาร จานนี้ให้พลังงานทั้งหมด 106 กิโลแคลอรี และจะได้โปรตีน 4.0 กรัม โดยความเข้มข้นของพลังงานอยู่ที่ 0.66 กิโลแคลอรี/กรัม และสัดส่วนของพลังงานที่ได้รับจาก คาร์โบไฮเดรต : ไขมัน : โปรตีน เท่ากับ 52 : 33 : 15
 
    ***ข้าวบดปลาทู-ฟักทอง
       
       มีส่วนประกอบ (ต่อ 1 มื้อ) ที่สำคัญ คือ
       - ข้าวสวย 4 ช้อนกินข้าว
       - น้ำแกงจืด 10 ช้อนกินข้าว
       - เนื้อปลาทูนึ่งทอด 1 ? ช้อนกินข้าว
       - ฟักทองต้มสุก (บดหรือหั่นละเอียด) 1 ? ช้อนกินข้าว
       - น้ำมันพืช ? ช้อนชา
       
       อาหาร จานนี้ให้พลังงานทั้งหมด 122 กิโลแคลอรี โปรตีน 5.6 กรัม โดยความเข้มข้นของพลังงานอยู่ที่ 0.84 กิโลแคลอรี/กรัม และสัดส่วนของพลังงานที่ได้รับจาก คาร์โบไฮเดรต : ไขมัน : โปรตีน เท่ากับ 47 : 35 : 18


บทความจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์ / life & family ฉบับวันที่ 19  กรกฎาคม 2553
Health & Care
- BPA คืออะไร
- เทคนิคการนวด
- ลูกจะเป็นอย่างไร ส่วนสำคัญขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของพี่ๆ
- 'กระดูกสันหลังคด' โรคที่อาจมากับ 'เด็กแรกเกิด'
- ขวดนมแบบไหน? ถึงจะโดนใจหนู
- เรื่องน่ารู้ของ
- ใช้
- ส่งลูกเข้าเรียน "วิถีพุทธ" ใครว่าเด็กจะล้าหลังคร่ำครึ!
- เมื่อลูกเป็น "โรค ภูมิแพ้"
- หนูอายจัง...ทำยังไงดี
View all

  Baby Product   Blog   About us   Address
  •   Athena Metis Co., Ltd.
  •   A M C (Thailand) Co., Ltd.
  •   50/41 Moo 13, Putthamonthon Sai 5
  •   Raikhing, Sampran,
  •   Nakornprathom 73210 Thailand
  •   Tel: +66 (0)2 019 9887
  •   Fax: +66 (0)2 019 9878
  •   E-mail: info@happybabito.com
HappyBabito Copyright 2010 Athena Metis Co., Ltd. All Rights Reserved. Babito is a trademark owned by Athena Metis Co., Ltd.
Engine by MAKEWEBEASY